วันจันทร์ที่ 27 กันยายน พ.ศ. 2553

บะหมี่สำเร็จรูปกินง่าย อร่อยปากลำบาก-สุขภาพ

"มูลนิธิเพื่อผู้บริโภค" เผยแพร่ผลการสำรวจปริมาณ "โซเดียม" อันตรายที่ซ่อนอยู่ในบะหมี่กึ่งสำเร็จรูป ซึ่งพบว่า บะหมี่สำเร็จรูปส่วนใหญ่มีปริมาณโซเดียมในเครื่องปรุงรสมากกว่าปริมาณที่แนะนำให้บริโภคต่อวัน จุดเด่นของบะหมี่สำเร็จรูปนั้นเป็นอาหารปรุงกินง่าย ราคาถูก แต่ข้อเสียสำคัญคือไม่มีสารอาหาร ทั้งยังส่งผลเสียต่อสุขภาพถ้าบริโภคมากไป ความห่วงใยว่าบะหมี่สำเร็จรูปจะเป็นภัยเงียบไม่ได้มีเฉพาะในประเทศไทยเท่านั้น แต่ยังเกิดขึ้นทั่วโลก พร้อมๆ กับยอดขายบะหมี่สำเร็จรูปที่พุ่งสูงถึง 6,500 ล้านซอง/ถ้วยต่อปี

สมาคมผู้บริโภคออสเตรเลีย(เอซีเอ) สำรวจพบว่า บะหมี่สำเร็จรูป 1 ซองมี "ไขมัน" มากพอๆ กับ "อาหารขยะ" จำพวกมันฝรั่งทอดจำนวน 1 ห่อเล็ก หรือเท่ากับพิซซ่า 1 ชิ้นเล็ก รวมทั้งมีปริมาณโซเดียมสูงกว่าอาหารขยะอีกด้วย ซึ่งไม่เป็นผลดีต่อสุขภาพเด็ก ที่สำคัญ "น้ำมัน" ทอดบะหมี่สำเร็จรูปมักเป็นน้ำมันพืชราคาถูก ซึ่งมีคุณสมบัติแตกตัวเป็น "กรดไขมันชนิดทรานส์" ที่เป็น 1 ในปัจจุบันกระตุ้นให้เกิดโรคหัวใจ และจากเว็บไซต์ข่าวการแพทย์ WebMD ของสหรัฐรายงานว่า สเตฟานี่ บรู๊กส์ นักโภชนาการในซานฟรานซิสโกเตือนว่า คนที่เป็นโรคความดันโลหิตสูง ป่วยด้วยโรคหัวใจ กินยาขับปัสสาวะ และยารักษาอาการซึมเศร้าบางชนิดไม่ควรรับประทานบะหมี่สำเร็จรูปโดยเด็ดขาด เพราะมีโซเดียมกับผงชูรสสูง

เหตุที่ไม่ค่อยเกิดกรณีกินบะหมี่สำเร็จรูปมากๆ แล้วป่วย เป็นเพราะผู้บริโภคสินค้าชนิดนี้ส่วนใหญ่เป็นเด็ก วัยรุ่น คนหนุ่มสาว ซึ่งร่างกายยังแข็งแรง ข้อสงสัยอีกประการเกี่ยวกับพิษภัยของบะหมี่สำเร็จรูปที่แพทย์เตือนไว้ก็คือ การที่บะหมี่สำเร็จรูปใส่สี ใส่สารทำให้กรอบ และผงชูรสในปริมาณมากๆ รวมทั้งถูกทอดในน้ำมันซึ่งผ่านการทอดซ้ำหลายๆ ครั้ง อาจจะทำให้เกิดการสะสมของ "คาร์บอน" ซึ่งเป็นสารก่อมะเร็งขึ้นมาในสินค้าประเภทนี้หรือไม่ ยิ่งไปกว่านั้น บะหมี่สำเร็จรูปยังใส่ "ผงชูรส" ซึ่งเป็นสารเพิ่มรสชาติมากเกินไป ในกรณีของผู้ที่แพ้ผงชูรสเมื่อรับประทานเข้าไป อาจเกิดอาการเหนื่อยอ่อน ปวดหัว หรือมีไข้ด้วยสภาพเศรษฐกิจบวกกับอุปนิสัยเคยชินกับการบริโภคบะหมี่สำเร็จรูปย่อมทำให้การละเลิกรับประทานสินค้าชนิดนี้เป็นไปได้ยาก

แต่ถ้าคิดจะรับประทานก็ควรใช้วิธีต่อไปนี้เพื่อลด "โทษ" ที่ซุกซ่อนอยู่ในบะหมี่สำเร็จรูป เช่น ควรต้มให้สุก อย่ากินเปล่าๆ โดยไม่เติมน้ำ เพราะบะหมี่จะเข้าไปพองในกระเพาะอาจทำให้เกิดอาการจุกแน่นได้นอกจากนี้ ควรใส่ไข่และผักลงไปด้วยทุกครั้งเพื่อเพิ่มโปรตีนกับวิตามิน รวมทั้งเมื่อต้มเสร็จแล้วให้เทน้ำซุปออกสักครึ่งหนึ่งเพื่อลดปริมาณสารเคมีไม่พึ่งประสงค์ในน้ำซุป ที่ง่ายที่สุดคืออย่ากินเกินวันละ 1 ซอง และอย่าตามใจปาก ถ้าไม่หิวก็ไม่ควรฉีกซองบะหมี่สำเร็จรูปมากินเล่นๆ จนติดเป็นนิสัย ไม่เช่นนั้นสารพัดโรคจะมารุมเร้าเร็วกว่าที่คิด

ที่มา หนังสือพิมพ์ข่าวสดปีที่ 15 ฉบับที่ 5347 วันอังคารที่ 18 ตุลาคม พ.ศ. 2548หน้า 23

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น